ขั้นตอนที่ 2 TrueScience เพอร์เฟ็คติ้ง โลชั่น
TrueScience เพอร์เฟ็คติ้ง โลชั่น
ผิวดูสว่าง ใส เปล่ง ประกายมากขึ้น และปรับโทนสีผิวให้สม่ำเสมอ ภายใน 4 สัปดาห์
โลชั่นแบบผสมผสานที่เป็นนวัตกรรมใหม่ล่าสุดเพื่อผิวที่เรียบเนียนเปล่งประกายยิ่งขึ้น โลชั่นสูตรเฉพาะความพิเศษนี้ ไม่ได้ทำหน้าที่เพียงโทนเนอร์หรือเซรั่ม หากยังช่วยให้สีผิวเรียบเนียนสม่ำเสมอ และปรับโทนสีผิวอย่างเห็นได้ชัดเจน
ส่วนประกอบสำคัญ
น้ำ, กลีเซอรีน, สารสกัดจากรากบูเพออูรัม ฟาลคัลตัม, สารสกัดจากพืชจำ?พวกบราซิกา (ผักกาด/กะหล่ำปลี/บร็อกโคลี่/กะหล่ำดอก/คะน้า), แซนแทนกัม, ไซลิทิลกลูโคไซด์, สารสกัดจากรากสมุนไพรปักคี้, แอนไฮโดรไซลิทอล, สารสกัดจากพืชบาโคปา มอนนีรา (สมุนไพรพรมมิ), สารสกัดจากซิลิบัม มาเรียนัม (เมล็ดมิลค์ ทิสเซิล), สารสกัดจากขมิ้นชัน (เคอร์คูมา ลองกา), สารสกัดจากเมล็ดไปเปอร์ ไนกรัม (เมล็ดพริกไทย), สารสกัดจากใบคาเมลเลีย โอเลฟีรา (ใบชา เขียว), สารสกัดจากรากโกฐเขมาขาว, สารสกัดจากรากไม้วาซาบิ, ไซลิทอล, ไอโซซีเทธ-20, เอธิลเฮกซิลกลีเซอรีน, เฮนอกซ์ซีธานอล, น้ำหอม, มาลาไคต์, เตตร้าโซเดียม กลูตาเมต ไดอะซีเตต, โซเดียม ไฮดรอกไซด์, กรดซิตริก
วิธีใช้
ใช้กับผิวที่ผ่านการทำความสะอาดและซับให้แห้งแล้ว เทโลชั่นประมาณ 1 ช้อนชาลงในฝ่ามือของคุณ และแตะเบาๆ ให้โลชั่นกระจายทั่วฝ่ามือ ลูบไล้โลชั่น ให้ทั่วทั้งใบหน้า และลูบย้อนไปที่แนวไรผม จากนั้น ลูบไล้บริเวณคอและเนินอกให้ทั่ว คุณสามารถใช้โลชั่น สูตรเฉพาะนี้กับแขนหรือหลังมือได้หากต้องการให้โทน สีผิวสม่ำเสมอ ทิ้งไว้สักครู่ให้โลชั่นซึมซาบลงผิว คุณจะ รู้สึกได้ถึงผิวที่เรียบลื่นและนุ่ม ใช้ทั้งตอนเช้าและ
ก่อนนอน เพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุด คุณอาจรู้สึกแสบร้อนเล็กน้อยเมื่อใช้ ซึ่งถือเป็นปกติ เนื่องจากสูตรเฉพาะที่มีประสิทธิภาพนี้ แต่ไม่ควร นานกว่า 2-3 วินาที
ก่อนนอน เพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุด คุณอาจรู้สึกแสบร้อนเล็กน้อยเมื่อใช้ ซึ่งถือเป็นปกติ เนื่องจากสูตรเฉพาะที่มีประสิทธิภาพนี้ แต่ไม่ควร นานกว่า 2-3 วินาที
สำหรับผู้มีผิวแพ้ง่าย
ทดสอบผลิตภัณฑ์ลงบนบริเวณต้นแขนก่อนที่จะใช้ครีมกับผิวหน้า ทาครีมลงบนบริเวณต้นแขนด้านใน หากปราศจากอาการแพ้ภายในสองถึงสามนาที สามารถใช้ผลิตภัณฑ์ได้ตามปกติ
คำเตือน
สำหรับใช้ภายนอกเท่านั้น ควรเก็บให้พ้นมือเด็ก หลีกเลี่ยงเนื้อครีมจากการสัมผัสกับดวงตา หากเกิดการสัมผัสกับดวงตา ล้างตาด้วยนำ้สะอาดอาดอย่างเบาๆ หยุดใช้ผลิตภัณฑ์หากมีอาการผื่นคันหรือเกิดการระคายเคือง หากอาการยังไม่ดีขึ้นควรเข้ารับคำแนะนำจากแพทย์
ความแตกต่างนั้นอยู่ที่ การกระตุ้นเอ็นอาร์เอฟทู
เอ็นอาร์เอฟทูคือกลไกที่ช่วยบรรเทาความเสียหายของผิวจากความตึงเครียดในระดับเซลล์ ที่ส่งผลให้เกิดริ้วรอยแห่งวัย เอ็นอาร์เอฟทูนั้นช่วยให้เสริมการป้องกันให้แก่ผิวจากการถูกทำลายจากสภาพแวดล้อมรอบๆตัว รักษาความสมดุลย์จากการถูกทำลายจากแสงอาทิตย์ ผลิตภัณฑ์ทั้ง 4 ในชุดทรูไซเอินซ์ เรจะเมน นั้นมีเทคโนโลยี เอ็นอาร์เอฟทูขั้นสูง ซึ่งผลิตมาจากสมุนไพร โดยการผสมผสานกันของสารพฤษเคมี แบบเดียวกับที่พบใน โปรแทนดิม ซึ่งทำหน้าที่เป็นตัวส่งสัญญาณให้แก่เซลล์ผ่านวิถีแห่งเอ็นอาร์เอฟทู ช่วยในการกระตุ้นให้ร่างกายผลิตเอนไซม์ต้านอนุมูลอิสระด้วยตัวของมันเองในการที่จะต่อกรกับความตึงเครียดในระดับเซลล์
92%
ผิวแลดูเปล่งประกาย*87%
ผิวแลดูเปล่งประกาย* *ผิวจะได้รับการฟื้นฟูปรับสภาพสู่ความเยาว์วัยอีกครั้ง เพื่อผิวที่ดูอ่อนเยาว์และมีสุขภาพดีในเวลาเพียง 28 วัน.
สารสกัดจากขมิ้นชัน
ช่วยปกป้องความตึงเครียดในระดับเซลล์ และลดผลกระทบที่จะทำให้ แก่ก่อนวัย มันคือสารต้านอนุมูลอิสระอันทรงประสิทธิภาพ ที่จะช่วย ลดการระคายเคืองและปกป้องผิวจากมลภาวะ โดยการช่วยร่างกาย กำจัดอนุมูลอิสระ
สารสกัดจากผักมิ
ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในกระบวนการตามธรรมชาติของผิวหนัง
สารสกัดจากมิลค์ทิสเทิล
ประกอบไปด้วย ซิลิมาริน และ ซิลิบินิน ซึ่งมีความสามารถในการ ปกป้องผิวจากสภาพแวดล้อมให้กับผิวชั้นนอก
สารสกัดจากชาเขียว
ช่วยสร้างสารต้านอนุมูลอิสระ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อต่อกรกับสิ่งรุมเร้าที่จะทำให้เกิดอนุมูลอิสระ ในขณะเดียวกันก็ยังช่วยบรรเทาความ
สารสกัดจากพืชวงศ์ผักกาด
สารสกัดจากสมุรไพรชนิดนี้ ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของ Nrf2 ซึ่งมา พร้อมกับผลิตภัณฑ์ทั้งสี่ตัวในชุด Regimen ที่จะช่วยปกป้องผิวคุณ จากความตึงเครียดในระดับเซลล์ ประกอบไปด้วย ไอโซธิโอไซยาเนตส์ ซึ่งช่วยปกป้องเซลล์ผิว จากการเสื่อมสภาพซึ่งมีต้นเหตุมาจากสภาพแวดล้อม และมลภาวะ
เสียหายของผิวไปในตัว
ไปเปอร์ ไนกรัม ช่วยลดรอยด่างดำและปรับสีผิว
ส่วนผสมในผลิตภัณฑ์แต่ละตัวในชุดเรจะเมนนั้นทำงานร่วมกันในการต่อกรกับความตึงเครียดในระดับเซลล์ที่ส่งผลเสียสะสมต่อผิวพรรณ
ตัวแทนจำหน่าย Lifevantage ประเทศไทย
สนใจสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ 🙏🙏🙏
โทร :: 084-110-5021
Line ID :: pla-prapasara
http://line.me/ti/p/~pla-prapasara
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น